การล้างบาป น้ำศักดิ์สิทธิ์มีไหมในศาสนาพุทธ

น้ำศักดิ์สิทธิ์  เเก้วิบากกรรม

                           ความเชื่อเรื่องการล้างบาป เเละน้ำศักดิ์สิทธิ์ ที่ดื่มเเล้วช่วยในการล้างบาป มีปรากฏในหลายๆศาสนา    ในหลายๆความเชื่อ     และมีวิธีการเเตกต่างกันไป

เเต่ล้วนเเต่ทำให้คนที่ทำ เกิดความสบายใจ เข้าใจว่าเมื่อทำผิดไปแล้ว สามารถเเก้ไข ลบล้างได้ ซึ่งในความเป็นจริงหากทำได้อย่างนั้นคงจะดีไม่น้อย เเต่ความจริงเราคงได้เห็นบ่อยๆ ว่า ยังมีผลที่เกิดจากเหตุการกระทำโดยตรงเสมอ อย่างนี้ก็คงต้องเป็นความเชื่อส่วนบุคคล

              ในส่วนพระพุทธศาสนาก็มีวิธี"ล้างบาป" เหมือนกัน ท่านจะเชื่อหรือไม่  ลองมาดูคำสอนของพระสัมมา สัมพุทธเจ้า ดังต่อไปนี้
    
               ภิกษุทั้งหลาย  บุคคลบางคนในโลกนี้  ทำบาปกรรมเเม้เพียงเล็กน้อย  บาปกรรมก็นำเขาไปสู่นรกได้  ส่วนบุคคลบางคนในโลกนี้  ทำบาปกรรมเพียงเล็กน้อย  เช่นนั้นเเล  บาปกรรมนั้นให้ผลในปัจจุบันเท่านั้น  ไม่ให้ผลเเม้เเต่น้อยในอัตภาพที่ ๒(ชาติหน้า) ไม่จำเป็นต้องพูดถึงผลมาก
            
               (๑) บุคคลที่ทำบาปกรรมเเม้เพียงเล็กน้อย  บาปกรรมนั้นก็นำเขาไปสู่นรกได้   คือ บุคคลเช่นไร
 คือ  บุคคลบางคนในโลกนี้ ไม่เจริญกาย  ไม่เจริญศีล  ไม่เจริญจิต  ไม่เจริญปัญญา  มีคุณน้อย  มีอัตภาพน้อย (ใจคับเเคบ  ใจหยาบ ใจต่ำทราม) เป็นอัปปทุกขวิหารี (มักอยู่เป็นทุกข์เพราะผลกรรมเล็กน้อย) บุคคลเช่นนี้ทำบาปกรรมเเม้เพียงเล็กน้อย  บาปกรรมนั้นก็นำเขาไปสู่นรกได้
            
               (๒) บุคคลที่ทำบาปกรรมเพียงเล็กน้อยเช่นนั้นเเลบาปกรรมนั้นให้ผลในปัจจุบันเท่านั้น  ไม่ให้ผลเเม้เเต่น้อยในอัตภาพที่ ๒  ไม่จำเป็นต้องถึงผลมาก  คือ  บุคคลเช่นไร
             

               คือ  บุคคลบางคนในโลกนี้  เจริญกาย  เจริญศีล  เจริญจิต  เจริญปัญญาแล้ว  มีคุณมาก มีอัตภาพใหญ่ (ใจกว้างขวาง  ใจบุญ  ใจสูง) เป็นอัปปมาณวิหารี (มีปกติอยู่ด้วยธรรมอันหาประมาณมิได้  คือเป็นคนไม่มีกิเลสหรือไม่เเสดงกิเลส) บุคคลเช่นนี้ทำบาปกรรมเพียงเล็กน้อยเช่นนั้นแล  บาปกรรมนั้นให้ผลในปัจจุบันเท่านั้น  ไม่ให้ผลแม้เเต่น้อยในอัตภาพที่ ๒ ไม่จำเป็นต้องพูดถึงผลมาก
             
               ภิกษุทั้งหลาย  เปรียบเหมือน บุรุษใส่ก้อนเกลือลงในขันใบน้อย   เธอทั้งหลายเข้าใจเรื่องนั้นได้อย่างไร  น้ำในขันเล็กน้อยนั้นเค็ม  ดื่มกินไม่ได้เพราะก้อนเกลือโน้น  ใช่หรือไม่
              "อย่างนั้น  พระพุทธเจ้าข้า"
               "ข้อนั้นเพราะเหตุไร"
               "เพราะในขันน้ำมีน้ำนิดหน่อย  น้ำนั้นจึงเค็ม  ดื่มกินไม่ได้เพราะก้อนเกลือโน้น พระพุทธเจ้าข้า"
               "หากบุคคลใส่ก้อนเกลือลงในเเม่น้ำคงคา เธอทั้งหลายเข้าใจเรื่องนั้นอย่างไร  เเม่น้ำคงคานั้นเค็ม  ดื่มกินไม่ได้เพราะก้อนเกลือโน้นใช่หรือไม่"
                "ไม่ใช่อย่างนั้น พระพุทธเจ้าข้า"
                "ข้อนั้นเพราะเหตุไร"
                "เพราะในเเม่น้ำคงคานั้นมีห้วงใหญ่ น้ำนั้นจึงไม่เค็มดื่มกินได้เพราะก้อนเกลือโน้น พระพุทธเจ้าข้า"
                   
                  พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า 
 "ภิกษุทั้งหลาย บุคคลบางคนในโลกนี้ก็ฉันนั้นเหมือนกันเเล ทำบาปกรรมเเม้เพียงเล็กน้อย บาปกรรมนั้นก็นำเขาไปสู่นรกได้  ส่วนบุคคลบางคนในโลกนี้ ทำบาปกรรมเพียงเล็กน้อยเช่นนั้นเเล บาปกรรมนั้นให้ผลในปัจจุบันเท่านั้น ไม่ให้ผลเเม้แต่น้อยในอัตภาพที่ ๒ ไม่จำเป็นต้องพูดถึงผลมาก"

         ดังนั้นชีวิตคนเราก็เหมือนกัน ไม่มีใครที่จะมีความสุขตลอดเวลาฉันใด ก็ไม่มีใครจะทุกข์ได้ตลอดเวลาเช่นกัน หากชีวิตเราตอนนี้กำลังรุ้สึกว่ามีทุกข์ ก็ให้หันกลับมาตั้งสติ พร้อมรับมือความทุกข์นั้นโดยการเติม น้ำศักดิ์สิทธิ์เข้าไปละลาย ความทุกข์ที่มันมีก้อนใหญ่ ให้เหลือเพียงตะกอน นอนก้น ความเค็มของความทุกข์ เมื่อเติมน้ำ คือการทำความดี สร้างบุญ กุศลให้จิตใจเเช่มชื่น เรียกขวัญและกำลังใจกลับมาสู้ เติมลงไปให้ได้จำนวนมากพอ ความทุกข์นั้นก็จะกระจาย เจือจางไปในน้ำ จนเราไม่รู้สึกถึงความเค็มได้ และหากตั้งใจทำความดี สร้างบุญต่อไปอย่างสุดกำลัง บุญที่เกิดก็จะมีปริมาณเข้มข้น เเละมากพอ จนทำให้บาป อกุศลที่เราได้ทำผิดพลาดไปส่งผลไม่ทัน จนกลายเป็นอโหสิกรรมได้ในที่สุด  ทั้งหมดนี่คือ วิธีล้างบาปในพระพุทธศาสนา  ล้างด้วยการสร้างบุญอย่างเต็มกำลัง