ผู้เกิดในโลก แต่ไม่ติดในโลก

           

          เคยถามตัวเองบ้างไหม ว่ามีทรัพย์เท่าไหร่จึงจะพอ สิ่งไหนที่เราต้องการ อยากได้จริงๆ และจำเป็นต่อเราจริงๆ และจำนวนที่เราต้องการ เป็นจำนวนจริงๆเท่าไหร่ ชีวิตที่เราใช้อยู่ทุกวันเป็นไปเพื่อสิ่งใด และจะหยุดลงเมื่อใด เราอาจจะได้ยินข่าวอันดับ มหาเศรษฐีติด
อันดับโลก ตามนิตยสารต่างๆอยู่เสมอ ที่มีตัวเลขมูลค่าทรัพย์สิน ที่คนธรรมดาอย่างเราๆคงนึกไม่ออกว่าถ้ามากองตรงหน้าจริงๆจะมากขนาดไหน เราอาจจะอิจฉาและอยากได้ แต่ถ้าหากวันหนึ่ง ทรัพย์เหล่านั้นมาอยู่ในมือของเราจริงๆ เราจะทำอย่างไรกับมันต่อไป
จะใช้ หรือรักษา หรือให้งอกเงย โจทย์ชีวิตวันนั้นคงเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจริงๆถ้าเราคิดจากค่าใช้จ่ายจริงๆที่เราใช้ บางทีเราอาจจะไม่จำเป็นต้องมีเงินเป็นหมื่นๆล้านอย่างนั้นก็ได้ ถ้าเพียงเเต่เรารู้จักตัวเราจริงๆ  เราจะไม่กลายเป็นคนที่ตกหลุมพรางสิ่งต่างๆในโลก ดังคำโบราณที่ว่า  เกิดในโลก  แต่ไม่ติดในโลก ดังเช่นเรื่องในพระไตรปิฏกเรื่องหนึ่ง ที่เขียนไว้อย่างชัดเจนว่า

     
พระสัมมาสัมพุทธเจ้า  และพระอรหันต์ทั้งหลายเป็นเเบบอย่างดียิ่งของ  ผู้เกิดในโลก  แต่ไม่ติดในโลก  มองทรัพย์ที่มีอยู่เป็นอุปกรณ์การสร้างความดี  เเม้เเต่ครั้งที่พระพุทธองค์ยังเสวยพระชาติเป็นพระโพธิสัตว์อยู่ ก็ยังสอนตนเองได้เช่นนั้น  ดังที่พระองค์เล่า  ให้พระอานนท์ฟัง  ถึงพระชาติที่ทรงเกิดเป็นพระเจ้าจักรพรรดิชื่อว่า  พระเจ้ามหาสุทัสสนะ  ดังนี้
"       บรรดาเมือง ๘๔,๐๐๐๐ เมือง  ในสมัยนั้น เราอยู่ครอบครองเมืองเดียวเท่านั้น คือ กรุงกุสาวดีราชธานี
       ปราสาท ๘๔,๐๐๐๐ องค์ เราอยู่ในปราสาทหลังเดียวเท่านั้น คือ ธรรมปราสาท
       เรือนยอด ๘๔,๐๐๐๐ หลัง เราอยู่ในเรือนยอดหลังเดียวเท่านั้น คือ เรือนยอดมหาวิยูหะ
       บัลลังก์ ๘๔,๐๐๐๐บัลลังก์ บัลลังก์ที่เราใช้สอยคือ บัลลังก์ทอง บัลลังก์เงิน บัลลังก์งา หรือบัลลังก์แก้วบุษราคัม บัลลังก์ใดบัลลังก์หนึ่งเท่านั้น
      ช้าง ๘๔,๐๐๐๐ ช้าง ช้าที่เราขี่เชือกเดียวเท่านั้น คือ พญาช้างตระกูลอุโบสถ
      ม้า ๘๔,๐๐๐๐  ม้า ม้าที่เราขี่ตัวเดียวเท่านั้น คือ พญาม้าวลาหก
       ราชรถ ๘๔,๐๐๐๐ คัน ราชรถที่เราใช้คันเดียวเท่านั้น คือ เวชยันต์ราชรถ
      สตรี ๘๔,๐๐๐๐ นาง นางกษัตริย์หรือนางเเพศย์คนเดียวเท่านั้น ที่ปรนนิบัติเรา
       ผ้า๘๔,๐๐๐๐ โกฏิ ผ้าที่เรานุ่งมีเพียงคู่เดียวเท่่านั้น จะเป็นผ้าโขมพัสตร์เนื้อดี ผ้าฝ้ายเนื้อดี หรือผ้ากัมพลเนื้อดีก็ตาม
สำรับอาหาร ๘๔,๐๐๐๐ สำรับ สำรับอาหารที่เราบริโภคเพียงสำรับเดียวเท่านั้น คือ ข้าวสุกทะนานหนึ่งเป็นอย่างมาก พร้อมด้วยกับข้าวพอสมควรแก่ข้าวสุกนั้น
      ดูเถิด อานนท์ สังขารเหล่านั้นทั้งปวงล่วงลับดับไป ผันเเปรไปเเล้ว สังขารทั้งหลายไม่เที่ยงอย่างนี้แล สังขารทั้งหลาย ไม่ยั่งยืนอย่างนี้แล  สังขารทั้งหลายไม่น่ายินดีอย่างนี้แล อานนท์ ข้อนี้จึงควรเบื่อหน่าย ควรคลายกำหนัด ควรจะหลุดพ้นไปจากสังขารทั้งปวงโดยเเท้"
    ในพระชาตินั้น  พระโพธิสัตว์ได้สั่งสมบุญอย่างยิ่งใหญ่ด้วยการสร้างมหาทาน รักษาอุโบสถศีล และในช่วงท้ายของชีวิตก็ทรงประพฤติพรหมจรรย์ถึง ๘๔,๐๐๐๐ ปี บำเพ็ญสมาธิจนได้ ฌาน ๔ เเละเจริญพรหมวิหาร เมื่อละโลกก็ไปเกิดในพรหมโลก

อ้างอิง:สารีปุตตเถราปทาน พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน,มมร.เล่ม ๗๐ หน้า ๔๑๙
   
เมื่อเราอ่านมาถึงตรงนี้ และได้หยุดพิจารณา ว่าการใช้ทรัพย์ของเราในปัจจุบัน เป็นไปเพื่ออะไร หากเพียงเเค่ หนึ่งอิ่ม หนึ่งอุ่น และ สุขภาพเเข็งเเรง ดำรงชีวิตอยู่ได้ เราก็จะไม่มีทุกข์มาก จากการเเสวงหา มาสะสมไม่สิ้นสุด ยิ่งมีมาก ยิ่งทุกข์มาก จากการดูเเล รักษา สิ่งเหล่านั้น เหมือนเป็นทาสสิ่งของที่เราเป็นเจ้าของโดยไม่รู้ตัว


ผู้เกิดในโลก แต่ไม่ติดในโลก ผู้เกิดในโลก  แต่ไม่ติดในโลก Reviewed by Paulyn on 05:03 Rating: 5

1 ความคิดเห็น

Theme Support

Need our help to upload or customize this blogger template? Contact me with details about the theme customization you need.